เหล็กกัลวาไนซ์มีกี่แบบ? รวมทุกเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับเหล็กกัลวาไนซ์

21 สิงหาคม 2025

เหล็กกัลวาไนซ์มีกี่แบบ? รวมทุกเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับเหล็กกัลวาไนซ์

ในวงการก่อสร้างและอุตสาหกรรม เหล็กกัลวาไนซ์ถือเป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นในการต้านทานการเกิดสนิมและการกัดกร่อน แต่หลายคนอาจยังไม่ทราบว่าเหล็กกัลวาไนซ์มีหลายประเภท แต่ละประเภทมีคุณสมบัติและการใช้งานที่แตกต่างกันอย่างไร บทความนี้ Nippon Steel จะพาคุณไปทำความรู้จักกับเหล็กกัลวาไนซ์อย่างละเอียด เพื่อให้คุณสามารถเลือกใช้งานได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพสูงสุด

 

เหล็กกัลวาไนซ์คืออะไร

เหล็กกัลวาไนซ์คือเหล็กที่ผ่านกระบวนการเคลือบผิวด้วยสังกะสี (Zinc) เพื่อป้องกันการเกิดสนิมและการกัดกร่อน โดยใช้หลักการป้องกันแบบแคโทดิก (Cathodic Protection) เนื่องจากสังกะสีมีค่าศักย์ไฟฟ้าต่ำกว่าเหล็ก จึงจะถูกกัดกร่อนแทนเนื้อเหล็ก ทำให้โครงสร้างหลักของเหล็กยังคงแข็งแรงและมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น

กระบวนการกัลวาไนซ์มีหลายวิธี แต่ที่นิยมที่สุดคือการชุบร้อน (Hot-dip Galvanizing) ซึ่งทำโดยการจุ่มเหล็กลงในอ่างสังกะสีหลอมเหลวที่อุณหภูมิประมาณ 450 องศาเซลเซียส ทำให้เกิดการยึดเกาะระหว่างเหล็กและสังกะสีที่แข็งแรงและทนทาน

 

เหล็กกัลวาไนซ์มีกี่แบบ

 

เหล็กกัลวาไนซ์ คืออะไร

 

สำหรับคำถามที่ว่าเหล็กกัลวาไนซ์มีกี่แบบ? โดยเหล็กกัลวาไนซ์แบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักตามลักษณะของผิวเคลือบและส่วนผสมของชั้นเคลือบ ซึ่งแต่ละประเภทมีคุณสมบัติและการใช้งานที่แตกต่างกัน การเลือกใช้งานจึงควรพิจารณาจากความเหมาะสมกับลักษณะงานและสภาพแวดล้อมการใช้งาน

 

1. ผิว GI

เหล็กกัลวาไนซ์ผิว GI (General Galvanized Iron) เป็นประเภทที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในท้องตลาด เนื่องจากมีความเงางามของผิวสังกะสีที่เด่นชัด และมีความทนทานต่อการกัดกร่อนสูง ชั้นเคลือบมีความหนาประมาณ 20-25 ไมครอน ทำให้สามารถป้องกันการเกิดสนิมได้ดี

เหล็กผิว GI เหมาะสำหรับงานโครงสร้างทั่วไปที่ต้องการความสวยงามควบคู่ไปกับความทนทาน เช่น โครงหลังคา รั้ว ประตู และงานตกแต่งภายนอกอาคาร โดยไม่จำเป็นต้องทาสีทับเพิ่มเติม

 

2. ผิว GA

เหล็กกัลวาไนซ์ผิว GA (Galvannealed) มีลักษณะพิเศษคือผ่านกระบวนการอบความร้อนหลังการชุบสังกะสี ทำให้สังกะสีทำปฏิกิริยากับเหล็กและเกิดเป็นชั้นเคลือบที่มีความแข็งแรงสูง แต่จะมีผิวด้านกว่าแบบ GI และมีสีเทาเข้ม

เหล็กผิว GA เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความทนทานสูงและต้องการทาสีทับ เช่น งานโครงสร้างอาคาร ชิ้นส่วนยานยนต์ หรืองานที่ต้องการเชื่อมต่อ เนื่องจากผิว GA เชื่อมติดได้ง่ายกว่าผิว GI

 

3. ผิว MAZ

เหล็กกัลวาไนซ์ผิว MAZ (Magnesium-Aluminum-Zinc) เป็นนวัตกรรมล่าสุดที่ผสมผสานคุณสมบัติของแมกนีเซียมและอะลูมิเนียมเข้ากับสังกะสี ทำให้ได้ชั้นเคลือบที่มีความทนทานต่อการกัดกร่อนสูงกว่าแบบ GI และ GA ถึง 2-3 เท่า

ผิว MAZ เหมาะสำหรับงานที่ต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เช่น พื้นที่ใกล้ทะเล โรงงานเคมี หรือพื้นที่ที่มีมลพิษสูง ด้วยคุณสมบัติการป้องกันการกัดกร่อนที่เหนือกว่า

 

คุณสมบัติของเหล็กกัลวาไนซ์

 

เหล็กกัลวาไนซ์ คืออะไร

 

เหล็กกัลวาไนซ์ทุกประเภทมีคุณสมบัติพื้นฐานที่โดดเด่นในการต้านทานการเกิดสนิม โดยชั้นสังกะสีจะถูกกัดกร่อนเพียงประมาณ 1-2 ไมครอนต่อปีเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีความแข็งแรงของเนื้อเหล็กที่ไม่เปลี่ยนแปลง สามารถรับแรงได้ดีเช่นเดียวกับเหล็กทั่วไป

 

เหล็กกัลวาไนซ์นำไปใช้อะไรได้บ้าง

การใช้งานของเหล็กกัลวาไนซ์มีความหลากหลายขึ้นอยู่กับประเภทและความต้องการของงาน ตั้งแต่งานโครงสร้างอาคาร งานระบบสาธารณูปโภค เช่น เสาไฟฟ้า ราวกันตก ไปจนถึงงานตกแต่งทั้งภายในและภายนอกอาคาร โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ต้องการความทนทานต่อสภาพแวดล้อมสูง

 

ข้อดีและข้อเสียของเหล็กกัลวาไนซ์

ข้อดีที่สำคัญของเหล็กกัลวาไนซ์คือความทนทานต่อการกัดกร่อนสูง อายุการใช้งานยาวนาน และไม่ต้องบำรุงรักษามาก ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว อย่างไรก็ตาม ข้อควรระวังคือการเชื่อมต่อที่อาจทำให้เกิดไอสังกะสีที่เป็นอันตราย และข้อจำกัดในการใช้งานบางประเภท เช่น งานที่สัมผัสกับอาหารหรือน้ำดื่ม

 

สรุปบทความเหล็กกัลวาไนซ์มีกี่แบบ

สุดท้ายนี้ สำหรับคำถามเหล็กกัลวาไนซ์มีกี่แบบ คงจะช่วยให้หลายคนรู้คำตอบกันไปแล้ว ซึ่งเหล็กกัลวาไนซ์แต่ละประเภทมีคุณสมบัติและการใช้งานที่แตกต่างกัน การเลือกใช้งานจึงควรพิจารณาให้เหมาะสมกับความต้องการและสภาพแวดล้อมการใช้งาน Nippon Steel ในฐานะผู้นำด้านการผลิตเหล็กระดับโลก นำเสนอผลิตภัณฑ์เหล็กกัลวาไนซ์ทุกประเภทที่ผ่านการรับรองมาตรฐานสากล พร้อมให้คำปรึกษาเพื่อช่วยคุณเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมที่สุด

Related Article